ดนตรีเป็นศาสตร์และศิลป์

1.ประเภทมีลิ้น
ปี่ใน ปี่กลาง ปี่นอก
ปี่ จัดเป็นเครื่องดนตรี ประเภทเป่าลิ้นคู่ ในวงปี่พาทย์ไม้แข็งนิยมใช้ ปี่ใน ปี่กลาง และปี่นอก ทำมาจากไม้เนื้อแข็งมีรูปร่างทรงกระบอกกลมยาวและป่องตรงกลางเลา เจาะรูทะลุตลอดทั้งอัน มีลิ้นสอดไว้ทางปาก และอมขณะเป่า ลิ้นจะต้องเปียกชื้น จึงจะเป่าดัง ลิ้นทำด้วยใบตาล ที่ตัวปี่จะเจาะรู ๖ รู ซึ่งปี่ที่นิยมใช้กันในภาคกลาง มี ๒ ชนิด คือ ปี่นอกและปี่ใน นิยมทำกัน ๒ ขนาด คือ ขนาดเล็กมีเสียงสูงดังจ้า เรียกว่า ปี่นอก ขนาดใหญ่สำเนียงต่ำลงมา เรียกว่าปี่ใน โดยทั่วไปนิยมใช้มากที่สุด คือ ปี่ใน
ปี่ใน ปี่กลาง ปี่นอก
ปี่ชวา

ปี่ชวา
จัดเป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่า มีรูปร่างคล้ายปี่ไฉนของภาคอีสานแต่ยาวกว่าและโตกว่าเล็กน้อย ทรงกระบอกรี โตตรงส่วนปลายของเลา เป็นปี่ประเภทลิ้นคู่ ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง ตอนปลายบานออก เป็นลำโพงขยายเสียง ลิ้นปี่ทำจากใบตาล ใบตาลซ้อนกัน ๔ ชั้นตัดให้กลมแล้วนำไปผูกติดกับท่อลมเล็กๆ ที่เรียกว่า “กำพวด” เรียวยาวประมาณ ๕ ซม กำพวดนี้ทำด้วยทองเหลือง เงิน นาค หรือโลหะอย่างอื่นวิธีผูกเชือกเพื่อให้ใบตาลติดกับกำพวดนั้น ใช้วิธีผูกที่เรียกว่า “ผูกตะกรุดเบ็ด” มีรูบังคับเสียง ๖ รู มีเสียงแหลม รูตอนบนเจาะเรียงลงมา ๔ รู เว้นระยะห่างเล็กน้อย เจาะรูล่างอีก ๒ รู ตรงกลางของเลาปี่ กลึงขวั้นเป็นเกลียวคู่ไว้เป็นจำนวน ๑๔ คู่ เพื่อความสวยงามและกันลื่นอีกด้วย ประวัติ มีหลักฐานบ่งบอกว่า กำเนิดในสมัยอยุธยา ปัจจุบันนิยมใช้เป่า ในวงกลองแขกประกอบการชกมวย กระบี่กระบอง และวงเครื่องสายปี่ชวา
ปี่มอญ

ปี่มอญ มีเสียงที่ทุ้มต่ำ โหยหวนมาก นิยมใช้ในวงปี่พาทย์มอญ
ด.ญ.กมลทิพย์ อาลัย ชั้น ม.1/2 เลขที่ 18 ส่งงานแล้วMind Mappingแล้วสรุป
ขอบคุณสำหรับเนื้อหาค่ะ มีประโยชน์มาก ๆ เลย.